คงไม่มีใครปฏิเสธนะครับว่าโลกเราปัจจุบันนั้นร้อนระอุขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะอุณหภูมิในหน้าร้อนเช่นนี้ หลายท่านแทบไม่อยากย่างเท้าออกนอกบ้านกันเลยทีเดียวเพราะเพียงแสงแดดกับไอร้อนที่ประทะกันเข้ามาพร้อมกัน หากไม่ได้พกอุปกรณ์บังแดดด้วยแล้วหละก็อาการปวดหัวที่นำไปสู่โรคไข้หวัดแดดก็อาจมาเยือนท่านและบรรดาสมาชิกในบ้านอันเป็นที่รักของท่านได้อย่างง่ายดาย ทำให้หลายท่านเลือกที่จะนอนตากแอร์อยู่ที่บ้านยอมกัดฟันแลกกับค่าไฟฟ้าในยุคน้ำมันแพงที่ต้องเสียไปมิใช่น้อยในแต่ละเดือนเพื่อไม่ต้องออกไปเผชิญกับความร้อนภายนอกดังกล่าวครับ

เพราะฉะนั้นสำหรับอาคารบ้านเรือนในเมืองไทยที่มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้นอยู่แล้ว การป้องกันความร้อนนับได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ผมขอแนะนำวิธีการแก้ปัญหาตั้งแต่เบื้องต้นโดยเริ่มตั้งแต่บ้านที่กำลังเริ่มทำการก่อสร้างหลังคา ก็ต้องรีบกันความร้อนเอาไว้แต่เนิ่น ๆ ด้วยการติดตั้งฉนวนกันความร้อนเอาไว้ใต้แป เพื่อให้มีช่องว่างของอากาศระหว่าง กระเบื้องมุงหลังคาและฉนวนกันความร้อนเพื่อไม่ให้แผ่นฟอยล์ที่มีคุณสมบัติเป็นตัวนำความร้อนมากระทบกับกระเบื้องมุงหลังคาโดยตรง ซึ่งวิธีการนี้จะสามารถป้องกันความร้อนบนหลังคาได้ส่วนหนึ่งครับ ประการสำคัญที่พึงระลึกไว้เสมอนะครับว่าแผ่นฟอยล์ไม่ใช่ฉนวนกันความร้อน แต่เป็นตัวสะท้อนรังสีความร้อนนะครับ
ส่วนท่านใดที่ก่อสร้างอาคารบ้านเรือนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พอมีวิธีการแก้ปัญหาความร้อนได้ โดยการนำฉนวนกันความร้อนมาปูบนฝ้าเพดานแต่การปูฉนวนบนฝ้าเพดานเช่นนี้บนหลังคานั้นควรมีช่องระบายอากาศที่สามารถระบายความร้อนอบอ้าวใต้หลังคาให้สามารถออกไปได้ เพื่อช่วยลดความร้อนบริเวณใต้หลังคา และช่วยทำให้ฉนวนกันความร้อนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยครับ
และเพื่อให้การซ่อมแซมหลังคาบ้านของท่านนั้นเสร็จสิ้นเพียงครั้งเดียว โดยไม่ต้องมารื้อถอนกันให้ยุ่งยากสองสามรอบ ก็ควรใช้โอกาสนี้ตรวจเช็คสภาพความเรียบร้อยและซ่อมแซมป้องกันปัญหาส่วนอื่นเอาไว้ด้วยเลยก็ดีทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฤดูกาลที่กำลังจะเข้าหน้าฝนที่จะมาถึงต่อจากหน้าร้อนอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพราะหลายวันที่ผ่านมาพื้นที่หลายแห่งทั้งในกรุงเทพ ฯ และในต่างจังหวัดก็ได้ชุ่มฉ่ำกับสายฝนที่โปรยปรายกันลงมาบ้างแล้ว การซ่อมแซมทีเดียวพร้อมกันเช่นนี้ นอกจากจะมั่นใจได้ว่าบ้านของท่านจะไม่ร้อนระอุแล้วยังอุ่นใจได้ด้วยว่าบ้านก็จะไม่รั่วในหน้าฝนเช่นเดียวกัน
โดยจุดแรกและเป็นจุดหลัก ๆ ที่ต้องเริ่มตรวจสอบอยู่ที่จุดครอบสันของหลังคาบ้าน โดยเฉพาะครอบที่ใช้ปูนซีเมนต์เป็นตัวยึด ซึ่งหากมีการก่อสร้างผิดวิธีปูนมักจะแตกและหลุดร่อนออกมาได้ง่ายเป็นสาเหตุให้เกิดการรั่วของน้ำมาจากด้านบนของหลังคา ต่อมาคือบริเวณรางน้ำโดยเฉพาะในบริเวณตะเฆ่รางเพราะในส่วนนี้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำหน้าที่รองรับน้ำฝน เมื่อผ่านอายุการใช้งานไปซักระยะหนึ่งจะมีการผุกร่อนบริเวณรอยต่อของรางน้ำ ถ้าสังเกตพบว่ามีการผุกร่อนในลักษณะนี้จริงควรให้ช่างหรือผู้มีความชำนาญเปลี่ยนรางน้ำใหม่ให้ทันทีครับ
หากทำการป้องกันบ้านร้อนและบ้านรั่วกันครบถ้วนแล้ว หน้าร้อนนี้ไปจนถึงหน้าฝนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า บ้านจะอยู่เย็นเป็นสุขไม่มีอาการบ้านร้อนและรั่วมากวนใจแน่นอนครับ